บ่อยครั้งเมื่อเราไปซื้อผ้าสีสรรสดสวยเรามักจะประสบกับความหงุดหงิดงงงวยเพราะเมื่อนำมาใช้ไปสักพักกลับสีสรรพลันซีดเซียว
เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ให้ท่านตรวจสอบโดยใช้ผ้าขาวชุบน้ำแล้วบิดหมาด ๆ นำไปถูผ้าที่จะทดสอบนั้นเพียงเล็กน้อย ถ้าสีตกจะมีสีติดที่ผ้าขาวนั้น ถ้าไม่มีสีติดก็แสดงว่าเป็นผ้าที่ไม่ตกสี
วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
๓๖ หอมปลาทูเค็มย่าง
วิถีการเรียนรู้ของหมู่เฮาชาวอีสานมักจะได้ยินคำกล่าวว่า " หมกปลาแดก (ปลาร้า) ต้องมีครู จี่ (ปิ้ง) ปูต้องมีวาด" ลักษณะปลาทูเค็มก็ประดุจดังปลาแดกของชาวอีสานเช่นกัน ถ้าจี่หรือปิ้งไม่ดีย่อมทำให้เละเทะได้โดยง่าย ดังนั้นเมื่อเราซื้อปลาทูเค็มมาจากตลาด ก่อนปิ้ง หรือ ย่าง ให้นำปลาทูเค็มไปแช่น้ำไว้สักครู่หนึ่งแล้วล้างออกให้สะอาด แล้วจึงนำใบตองกล้วยมาห่อจึงยกขึ้นย่างไฟพอให้ใบตองไหม้หน่อยจึงยกออก จะทำให้ปลาทูเค็มไม่เละ และมีกลิ่นหอม รสอร่อย ชวนทาน แกล้มแตงกวา ถั่ว หรือผักจิ้มอื่น ๆ ที่ชอบ อร่อยวางไม่ลง
วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
๓๕ มะละกอตัวเมีย
มะละกอ หรือ หมากหุ่ง ที่ชาวอีสานแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ ตัวเมีย และ ตัวผู้ (มะละกอสาย) มีอยู่เสมอที่เราปลูกต้นมะละกอแล้ว ตั้งตารอคอยเพื่อจะเห็นผลโตเต็มต้น แต่กลับอุดมด้วยดอกบนขั่วยาว ๆ เต็มต้นแทนเพราะมันเป็นมะละกอสาย ไม่ยอมติดผล บางคนแก้ปัญหาโดยนำผ้าถุงเก่า ๆ มาพันรอบต้นหวังให้กลายเป็นตัวเมียและออกลูกดก
วิธีแก้ง่าย ๆ มีดังนี้ ก่อนนำต้นมะละกอปลูกลงดินให้ตัดรากแก้วออกเล็กน้อยแล้วปลูกตามปกติ พอถึงเวลามะละกอออกลูกจะติดลูกทุกต้น
วิธีแก้ง่าย ๆ มีดังนี้ ก่อนนำต้นมะละกอปลูกลงดินให้ตัดรากแก้วออกเล็กน้อยแล้วปลูกตามปกติ พอถึงเวลามะละกอออกลูกจะติดลูกทุกต้น
๓๔ พริกผลดกกับรากแก้ว
เคล็ดลับหลายประการของคนโบราณในการปลูกพริกเพื่อให้ติดผลดก เช่น ใช้คนเกิดวันเสาร์ปลูก รองหลุมปลูกด้วยมูลไก่ หรือปลูกตอนเที่ยงวัน แต่มีเทนนิควิธีอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อเพาะเมล็ดพริกจนได้ต้นอ่อนและมีขนาดโตพอปลูก ก่อนจะนำต้นอ่อนปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ ให้ท่านตัดรากแก้วของต้นพริกออกเสียก่อน ประมาณ ๑ นิ้ว หรือน้อยกว่านี้เล็กน้อยก็ได้ แล้วจึงปลูกตามปกติ จะสังเกตเห็นว่าเวลาพริกออกผลจะดกมากแทบจะมองไม่เห็นใบ
๓๓.วันเขียงแตก
เขียงอาจทำได้จากไม้เกือบทุกชนิด เมื่อไม่ได้ใช้สับ หั่น เนื้อ หรือวัสดุ เป็นเวลานาน ๆ เขียงอาจแห้งซึ่งเป็นเหตุให้แตกหรือแยกได้ ปัจจุบันนิยมใช้ไม้มะขามทำเขียงเพราะเหนียวและทนทาน แต่เพื่อให้คงความเหนียวทนทานไว้ได้นาน ๆ ก่อนใช้ควรนำไปแช่น้ำเกลือก่อนสัก ๓ คืน ถ้าแช่น้ำธรรมดาเมื่อนำมาใช้ไม่นานเขียงก็มักจะแตกอีก
วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
๓๒ สุนัขแสนรักโดนเบื่อ
สุนัขแสนรักของท่าน บางครั้งอาจเป็นที่หมั่นไส้ของคนอิจฉาหวังดี แต่ประสงค์ร้ายให้อาหารผสมยาเบื่อ อย่าพึ่งบื้อกิน ให้ตั้งสติเพราะนอกจากน้ำจากต้นลางจืดแล้ว ยังมีคู่ปรับของสารพิษต่าง ๆ อีก คือน้ำมะพร้าว ให้ท่านผ่าเอาน้ำมะพร้าวผสมกับน้ำตาล แล้วใช้กรอกสุนัขที่ถูกเบื่อ สุนัขจะสำรอกสิ่งที่กินออกมา จะทำให้หายจากการโดนยาเบื่อได้
๓๑ เบื่อได้แต่ไม่ตาย
มีอยู่เสมอที่ในหมู่บ้านหรือชุมชนมักเกิดเหตุการณ์ที่เกิดคนเบื่อเห็ด เบื่อปลาส้ม เบื่อปลาจ่อม หรือ อื่น ๆ
วิธีแก้ คือ ให้คั้นเอาน้ำของต้นจางจืด หรือลางจืดสักครึ่งแก้ว ดื่มเข้าไปประมาณ ๕ นาที ผู้ดื่มก็จะอาเจียนออกมาหมด
วิธีแก้ คือ ให้คั้นเอาน้ำของต้นจางจืด หรือลางจืดสักครึ่งแก้ว ดื่มเข้าไปประมาณ ๕ นาที ผู้ดื่มก็จะอาเจียนออกมาหมด
๓0 ปูนขาวใส่ก็ใสได้
รำคาญ หงุดหงิด จากน้ำในบ่อที่บ้านสีเหลืองขุ่น ใจเย็น ๆ สูตรง่าย ๆ ใส ๆ เพียงท่านใส่ปูนขาวลงไปเพียงประมาณสัก ๒ ขัน (ขันที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑0-๑๕ ซม.) เวลาประมาณ ๖ ชั่วโมง หรือจะใส่ช่วงเย็น รุ่งเช้าขึ้นมา ก็ใสวาวไม่เร้าโกรธเหมือนเดิม
๒๙ หลับสบายได้ด้วยขี้เหล็ก
บ่อยครั้งที่เรามีเรื่องต้องคิด วนเวียนซ้ำซากนอนไม่หลับ เหนื่อย เพลียละเหี่ยใจให้หงุดหงิด หลายคนอาจต้องพึ่งโรงพยาบาลจืตเวชเพราะเมื่อได้รับยาจากโรงพยาบาลมารับประทานแล้วจะรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย หลับได้จากฤทธิ์ยา แต่คนรุ่นก่อน ๆ ท่านไม่ต้องพึ่งยาเหล่านี้ แค่รับประทานแกงขี้เหล็กบ่อย ๆ ก็พลอยทำให้หลับสบาย ๆ แต่ต้องระวังยอดขี้เหล็กเพราะมีกรดยูริกปริมาณสูงจะมีผลกระทบต่อคนที่เป็นโรคเก๊าส์ได้ ผู้เป็นโรคนี้ไม่ควรรับประทานบ่อย เพราะจะทำให้ปวดข้อขึ้นมาได้
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
๒๘. แก้ไอง่าย ๆ ด้วยน้ำซาวข้าวเหนียว
น้ำซาวข้าวซึ่งชาวอีสานเรียกว่าน้ำมวก นอกจากจะใช้สระผมให้รื่นดำเป็นเงางามแล้วยังเป็นยาแก้ไอได้อีกด้วย เมื่อย่างเข้าฤดูหนาว เด็กหรือผู้ใหญ่มักชอบเป็นไอกัน ซึ่งเมื่อเป็นไอขึ้นมาจะรักษายาก ลองมาใช้ยาพื้นบ้านดูด้วยการเอาแก้วตักเอาน้ำซาวข้าวหรือน้ำมวก(ที่ตกตะกอนแล้ว) สักครึ่งแก้ว เอาเกลือป่นใส่ลงไปเล็กน้อย พอเค็มปะแร่ม ๆ จิบลงไปทีละน้อย ๆ ทำเช่นนี้สักประมาณ ๒-๓ ดื่มก่อนเข้านอน อาการไอจะหายไป
๒๗.ขมดอกแค
คนโบราณจะรู้ดีว่าส่วนใดของดอกแคที่ก่อให้เกิดรสขม ซึ่งก็คือส่วนเกสรของมันนั่นเอง ดังนั้นก่อนจะนำไปลวกหรือต้มหรือนำไปแกงจึงต้องเด็ดเสรออกไปก่อน ดอกแคก็จะไม่ขม รสชาดหอมอร่อย
วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
๒๖. ฝรั่งแก้คัน
ใบฝรั่ง(บักสีดา-ภาษาอีสานบ้านเฮา) สรรพคุณนอกจากแก้เมา และ ดับกลิ่น แล้วยังแก้คันได้อีกด้วย...สุดยอด ถ้ารู้สึกคันเนื่องจากผดผื่นคัน ลมพิษ หมามุ้ย ยุงกัด หรือน้ำคันตามหนองน้ำสกปรกต่าง ๆ ด้วยการนำเปลือกฝรั่งและใบมาพอประมาณใส่น้ำต้มให้เดือดแล้วใส่เกลือกลงไปเล็กน้อย เมื่อเย็นแล้วนำมาชะล้าง หรือทาบริเวณที่คันบ่อย ๆ เพียงไม่กี่ครั้งก็จะหายจากอาการคันได้
๒๕.เกลื้อนกลากลำบากใจ
เมื่อเป็นกลากหรือเกลื้อน ถ้าลำบากใจที่จะใช้ยาแผนปัจจุบัน ก็เลือกใช้ยาแผนโบราณได้ดังนี้
๑. ใส่กระเทียมกับผักแว่นโคกตำคลุกด้วยน้ำมันหมู ทา ๒-๓ วัน รับรองว่าหาย
๒. ฝานขิงแก่เป็นแว่น ๆ ถูทาบ่อย ๆ หรือตำเอาขิงแก่ทาทุกวัน หายแน่นอน
๑. ใส่กระเทียมกับผักแว่นโคกตำคลุกด้วยน้ำมันหมู ทา ๒-๓ วัน รับรองว่าหาย
๒. ฝานขิงแก่เป็นแว่น ๆ ถูทาบ่อย ๆ หรือตำเอาขิงแก่ทาทุกวัน หายแน่นอน
๒๔. สุดยอดการทอดปลา
การทอดปลาที่บางครั้งผลที่ได้เป็นเนื้อเละหรือข้างนอกไหม้แต่ข้างในกลับยังดิบ ข้อควรระวังในการทอด คือ อย่าให้ไฟร้อนเกินไป เวลาจะพลิกกลับข้างต้องให้ด้านล่างสุกกรอบเสียก่อน ถ้าต้องการให้ปลาเหลืองหอมน่ารับประทานให้หั่นข่าบาง ๆ ประมาณ ๔-๕ ชิ้นใส่ในน้ำมันจนไหม้เกรียมเป็นสีเหลืองแล้วจึงทอดปลา ปลาจะมีสีเหลือง และมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน
๒๓. น้ำกัด อย่ากัดน้ำ
น้ำกัดเท้าเป็นเหตุการณ์ที่มักเกิดขึ้นเสมอ บางครั้งเป็นน้ำคัน ทำให้หงุดหงิดรำคาญเพราะคันไม่หยุดจนเป็นอุปสรรคในการทำงานจำเป็นต้องหาซื้อยามาทา บริเวณใดที่เป็นแผลจากการเกาเมื่อคัน ถ้าไม่รักษาแผลก็จะเปิดกว้างลุกลามอาจด้วยสาเหตุมาจากเชื้อรา
วิธีการรักษา ให้ใช้แอลกอฮอล์ ผสมผงกันบูด(ชนิดผสมยา) ทาฆ่าเชื้อได้ หรือใช้สารส้มบดให้ละเอียดทาบริเวณที่เป็นสัก 2-3 ครั้ง
อาการดังกล่าวจะหายไป เมื่อทราบวิธีการแล้วช่วยเล่าต่อกับชาวบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มหรือที่ราบต่ำมีน้ำขัง หรือน้ำท่วมบ่อย ๆ หรือบ้านอยู่ติดลำคลองก็จะได้อานิสงส์มหาศาล
วิธีการรักษา ให้ใช้แอลกอฮอล์ ผสมผงกันบูด(ชนิดผสมยา) ทาฆ่าเชื้อได้ หรือใช้สารส้มบดให้ละเอียดทาบริเวณที่เป็นสัก 2-3 ครั้ง
อาการดังกล่าวจะหายไป เมื่อทราบวิธีการแล้วช่วยเล่าต่อกับชาวบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มหรือที่ราบต่ำมีน้ำขัง หรือน้ำท่วมบ่อย ๆ หรือบ้านอยู่ติดลำคลองก็จะได้อานิสงส์มหาศาล
วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
๒๒. คันหายใช้น้อยหน่า
เมื่อเด็ก ๆ เป็น ฝี ตุ่ม หรือแผลเรื้อรัง ควรใช้ยาพื้นบ้านที่เรีกกันว่า สมุนไพร คือ ลูกน้อยหน่าที่แห้งดำติดคาต้น นำมาฝนกับก้อนหินแบน ๆ แล้วนำฝุ่นที่ได้ไปป้ายตรงแผลเรื้อรังนั้น แผลจะหายไปได้โดยควรทำต่อเนื่องกันไปประมาณ ๔-๕ วัน รับรองว่าได้ผลแน่ ไม่ต้องแก้โดยซื้อยาใส่ให้เปลืองตังค์
๒๑. น้ำมันเหลือเอื้อประโยชน์
น้ำมันที่ใช้ทอดอาหารแล้วจะมีสีออกคล้ำ หรือดำหม่น ให้เอามันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปมากหรือน้อยตามสัดส่วนของน้ำมัน จะทำให้น้ำ้มันสะอาดใสใหม่เหมือนเดิม จากนั้นเทเอาน้ำ้มันส่วนใส สะอาด ออกใส่ไว้ในภาชนะ นำออกมาใช้ใหม่ได้
๒0. ไขมันดันเปื้อนผ้า
เมื่อไขมันเปื้อนผ้า ไม่ว่าจะเป็นไขมันจาก ครีม เนย น้ำ้มัน ต่าง ๆ อย่าเอาผ้าไปแช่น้ำ ควรขจัดรอยเปื้อนก่อนด้วยการใช้แป้งโรยตัวโรยตรงบริเวณที่เปื้อนแล้วใช้กระดาษทิชชูวางขวางทับตรงรอยเปื้อนนั้น ใช้เตารีดร้อน ๆ วางทับกระดาษดังกล่าวสักครู่อย่าให้กระดาษไหม้ กระดาษจะดูดซับคราบมันที่ติดผ้าออกหมด จากนั้นจึงนำผ้าไปซัก
๑๙. ฟันแข็งแรงแมงไม่มี
ครกตำหมาก เป็นอุปกรณ์สำคัญของคนรุ่นปู่ย่าตายายของเราที่ชอบเคี้ยวหมาก ยามเช้า เย็น ท่านจะตำขมิ้นกับเกลือให้เข้ากันแล้วนำมาอมเป็นการดับกลิ่นปาก และยังทำให้ฟันคงทนไม่โยกโคลงง่าย ถ่าไม่มีครกขณะตื่นนอนตอนเช้าก็อาจใช้วิธีเคี้ยวเกลือหนึ่งหยิบมือแล้วเคี้ยวขมิ้นเท่าปลายนิ้วก้อย เคี้ยวปรุงกัน เอาเอาไว้ประมาณ ๕ นาที ทำเป็นประจำทุกวัน ... ฟันแข็งแรงแมงไม่มี
๑๘. ผักดองของอร่อย
หลายท่านคงนิยมชมชอบการรับประทานผักดอง (ชาวอีสานเรียก ส้มผัก) ชาวอีสานชอบดองผักกาดเขียว หอม และกระหล่ำปลี มีกรรมวิธีในการทำดังนี้
กะหล่ำ และต้นหอมไม่ต้องผึ่งแดด ส่วนผักเขียวต้องผึึ่งแดดให้เหี่ยวเล็กน้อย จากนั้นนำมาล้าง เอาเกลือโรย คั้นให้เข้ากันดีแล้วนำไปแช่ในน้ำซาวข้าว ถ้าไม่มีน้ำซาวข้าวให้เอาข้าวเหนียวหรือข้าวจ้าวที่สุกแล้วคั้นใส่พร้อมกับเกลือ ถ้าต้องการกินในเวลาสองวันก็ใส่เกลือแต่น้อย ถ้าใส่เกลือมากหลายวันจะเกิดรสเปรี้ยว
กะหล่ำ และต้นหอมไม่ต้องผึ่งแดด ส่วนผักเขียวต้องผึึ่งแดดให้เหี่ยวเล็กน้อย จากนั้นนำมาล้าง เอาเกลือโรย คั้นให้เข้ากันดีแล้วนำไปแช่ในน้ำซาวข้าว ถ้าไม่มีน้ำซาวข้าวให้เอาข้าวเหนียวหรือข้าวจ้าวที่สุกแล้วคั้นใส่พร้อมกับเกลือ ถ้าต้องการกินในเวลาสองวันก็ใส่เกลือแต่น้อย ถ้าใส่เกลือมากหลายวันจะเกิดรสเปรี้ยว
๑๗. หัวหอมกับกลิ่นเหม็น
ตามซอกมุุมบ้าน หรืออาคารท่านอาจพบกลิ่นเหม็นของหนู จิ้งจก หรือตุ๊กแกที่ตายแล้วหาซากไม่พบ ปัญหาเช่นนี้ขจัดได้ง่าย ๆ ด้วยการ นำหัวหอมมาผ่าครึ่งแล้วเอาไปวางไว้ในย่าน หรือ จุดที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน (ปริมาณหัวหอมให้มากพอประมาณ) กลิ่นเหม็นสาบเหล่านนั้นก็จะหายไป
๑๖. สูตรลวกผักสวย
การลวกผักให้สุก มีสีเขียวจัดและน่ารับประทาน ต้องต้มน้ำให้เดือดก่อน จากนั้นใส่ผักลงแล้วปิดฝาหม้อให้ดี ประมาณ ๑-๒ นาที ยกหม้อลง แล้วรีบเอาผักออก ยึกหลักสี่อย่าง คือ "น้ำน้อย ไฟแรง ปิดฝา เวลาสั้น" ผักที่ลวกโดยกรรมวิธีนี้จะน่ารับประทานเพราะมีสีเขียวสดใสเหมือนก่อนลวก
๑๕. น้ำซาวข้าวกับคาวปาก
ในครั้งก่อน สมัยปู่ ย่า ตา ยายของเรา จะใช้น้ำซาวข้าวผสมกับเกลือช่วยในการขจักกลิ่นปาก ซึ่งวิธีการนี้ก็ไม่น่าจะตกยุคแต่อย่างไร ทุกท่านสามารถนำมาใช้ได้ช่วยให้ประหยัดสตางค์ที่ต้องซื้อยาสีฟันได้ สูตรหรือวิธีการนี้ผู้ที่รับประทานข้าวเหนียวจะทำได้โดยสะดวกเพราะมีน้ำซาวข้าว(แช่ หรือ หม่า ข้าว)อยู่แล้ว ใส่เกลือป่นผสมลงไปในน้ำซาวข้าว อมไว้ประมาณ ๒ นาที แล้วค่อยบ้วนปากทิ้งไป อมเป็นประจำทุกวันกลิ่นปากจะหมดไป แต่ท่านคงต้องแปลงฟันเช่นเดิมมิฉะนั้นเศษอาหารอาจยังคงติดค้างในร่องฟันอยู่ซึ่งจะก่อกลิ่นขึ้นมาใหม่ได้
บันทึก: คลื่นเสียงของชาวแอตแลนติสที่ใช้ในการฝึกพลัง เสียง "SO-MAA-AH (โซเมอา)" ถ้าออกเสียงต่อเนื่อง เสียงนี้จะเหมาะเป็น มนตรา ที่สุดสำหรับปัจเจกชนที่มุ่งจะสัมผัสกับ พระเจ้าภายในตัวเอง(GOD-SELF) ของคนเรา เพราะเสียงนี้เป็นตัวแทนของความรู้ การรับรู้และการบรรลุ อีกทั้งยังเป็นเสียงแห่งจักรวาลอีกด้วย
...อ้างอิง สมาธิหมุน ....สุวินัย ภรณวลัย
บันทึก: คลื่นเสียงของชาวแอตแลนติสที่ใช้ในการฝึกพลัง เสียง "SO-MAA-AH (โซเมอา)" ถ้าออกเสียงต่อเนื่อง เสียงนี้จะเหมาะเป็น มนตรา ที่สุดสำหรับปัจเจกชนที่มุ่งจะสัมผัสกับ พระเจ้าภายในตัวเอง(GOD-SELF) ของคนเรา เพราะเสียงนี้เป็นตัวแทนของความรู้ การรับรู้และการบรรลุ อีกทั้งยังเป็นเสียงแห่งจักรวาลอีกด้วย
...อ้างอิง สมาธิหมุน ....สุวินัย ภรณวลัย
วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552
๑๔. น้ำส้มคั้น มะนาวคั้นพลันอร่อย
การคั้นน้ำส้ม และมะนาว ต้องรู้วิธี หากทำไม่ถูกวิธี น้ำส้ม และน้ำมะนาวก็จะมีรสขม ไม่อร่อย สาเหตุเนื่องจากน้ำมันที่ผิวของผลไม่ทั้งสองชนิดลงไปด้วย จึงมข้อแนะนำดังนี้
น้ำมะนาว นำมานาวทั้งผลลวกน้ำร้อนก่อนเพื่อชะล้างน้ำมันที่ผิวออก จากนั้นจึงผ่าซีกคั้นใส่ลงในภาชนะ เติมน้ำตาลทราย หรือน้ำเชื่อมผสมน้ำต้มสุก หรือน้ำอุ่น เหยาะเกลือป่นลงไปเล็กน้อยเป็นเสร็จวิธี ดื่มได้ ถ้าชอบเย็น ๆ ก็ใส่น้ำเเข็งลงไป ก็จะดื่มได้รสชาดชื่นใจ
น้ำส้ม ถ้าที่คั้นเป็นแบบเหลี่ยมผ่าซีีกแล้วกดหมุนได้เลย แต่ถ้าเป็นแบบเครื่องกดต้องปอกเปลือกส้มออกให้หมด ผ่าซีก แล้วจึงกด หากไม่เอเปลือกออก น้ำมันที่เปลือกจะหยดลงด้วยทำให้มีรสขมไม่อร่อย เมื่อได้น้ำส้มมาแล้วก็ปรุงรสเอาตามใจชอบ
น้ำมะนาว นำมานาวทั้งผลลวกน้ำร้อนก่อนเพื่อชะล้างน้ำมันที่ผิวออก จากนั้นจึงผ่าซีกคั้นใส่ลงในภาชนะ เติมน้ำตาลทราย หรือน้ำเชื่อมผสมน้ำต้มสุก หรือน้ำอุ่น เหยาะเกลือป่นลงไปเล็กน้อยเป็นเสร็จวิธี ดื่มได้ ถ้าชอบเย็น ๆ ก็ใส่น้ำเเข็งลงไป ก็จะดื่มได้รสชาดชื่นใจ
น้ำส้ม ถ้าที่คั้นเป็นแบบเหลี่ยมผ่าซีีกแล้วกดหมุนได้เลย แต่ถ้าเป็นแบบเครื่องกดต้องปอกเปลือกส้มออกให้หมด ผ่าซีก แล้วจึงกด หากไม่เอเปลือกออก น้ำมันที่เปลือกจะหยดลงด้วยทำให้มีรสขมไม่อร่อย เมื่อได้น้ำส้มมาแล้วก็ปรุงรสเอาตามใจชอบ
๑๓. ปลูกสร้างบ้าน ณ ที่ใด
การที่จะสร้างบ้านนั้นมิใช่ว่ามีที่ดินแล้วจะปลูกได้เลย ยังต้องหาฤกษ์หายาม หาที่ที่เหมาะ ๆ อยู่แล้วจะสบายใจ
1. ไม่คร่อมตอไม้ อาจเป็นไปได้ว่า คนโบราณกลัวว่าตอจะงอกขึ้นมาภายหลังจะเป็นการลำบาก แม้แต่รากไม้ใหญ่ผ่านก็ต้องขุดออก ยกเว้นไม้ที่มีดอกผลที่เรากินได้
2. ไม่คร่อมจอมปลวก ปลวกเป็นพิษภยต่อบ้านอย่างยิ่ง อีกทั้งภายในจอมปลวกเองยังกลวง หากเจอน้ำอาจยุบตัวลงได้
3. ไม่เป็นบ่อ สระน้ำ หรือหนองน้ำเก่า โบราณห้ามไว้ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีแก้ หากท่านจะสร้างบ้านในบริเวณนั้นท่านต้องถมดินทิ้งไว้หนุ่งฝน จากนั้นสร้างบ้านได้
1. ไม่คร่อมตอไม้ อาจเป็นไปได้ว่า คนโบราณกลัวว่าตอจะงอกขึ้นมาภายหลังจะเป็นการลำบาก แม้แต่รากไม้ใหญ่ผ่านก็ต้องขุดออก ยกเว้นไม้ที่มีดอกผลที่เรากินได้
2. ไม่คร่อมจอมปลวก ปลวกเป็นพิษภยต่อบ้านอย่างยิ่ง อีกทั้งภายในจอมปลวกเองยังกลวง หากเจอน้ำอาจยุบตัวลงได้
3. ไม่เป็นบ่อ สระน้ำ หรือหนองน้ำเก่า โบราณห้ามไว้ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีแก้ หากท่านจะสร้างบ้านในบริเวณนั้นท่านต้องถมดินทิ้งไว้หนุ่งฝน จากนั้นสร้างบ้านได้
๑๒. หาตาน้ำยามขุดบ่อ
เวลาจะขุดบ่ิอน้ำจะขุดแบบสุ่มเสี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อขุดลงไปแล้วไม่พบน้ำก็จะทำให้เสียเวลาไปเปล่า ๆ วิธีการคือ ในตอนเช้าช่วงประมาณตีห้า ถึงหกโมงเช้า ให้ไปยืนดูตามพื้นที่ต่าง ๆ ณ ตำแหน่งใดพื้นดินอุ่น ๆ เป็นตาน้ำขุดบ่อได้ อีกวิธีหนึ่งให้สังเกตปลวก หรือจอมปลวก จะมีน้ำอยู่ใต้พื้นดินไม่เกิน 3 เมตร ขุดบ่อได้
๑๑. น้ำซาวข้าว เกลือ แก้กลิ่นปาก
สมัยโบราณรุ่นปู่ย่า ตายาย และยังใช้ได้ในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยทำให้ประหยัดเงินซื้อยาสีฟันได้มาก สูตรนี้ผู้ที่รับประทานข้าวเหนียวก็หาได้ง่ายเพราะมีน้ำซาวข้าวที่ท่านหม่า(แช่)ข้าวเหนียวไว้นั่นแหละ นำมาผสมเกลือป่นอมสัก 2-3 นาที แล้วบ้วนทิ้ง อมเป็นประจำทุกวันแทนยาสีฟันได้เลย กลิ่นปากก็จะไม่มีเป็นที่สังคมรังเกียจเป็นแน่
๑0. คั้นน้ำมะนาวไม่ให้ขม
น้ำมะนาวขมเพราะน้ำมันที่ผิวของมะนาว วิธีทำไม่ให้ขม ควรนำมะนาวทั้งผลลวกน้ำร้อนเสียก่อน เพื่อชะล้างน้ำมันที่ผิวของมะนาว แล้วจึงผ่าซีกคั้นใส่ลงในน้ำตาลทรายละลายน้ำร้อน หรือน้ำเชื่อมผสมน้ำ เหยาะเกลือป่นลงไปเล็กน้อย ใส่น้ำแข็งดื่มจะได้รสชาดชื่นใจ และประหยัดเงินด้วย
๙. ขัดเครื่องเงิน
วิธีขัดเครื่องเงินให้เอามันฝรั่งมาต้มจนเละ แล้วใส่เครื่องเงินลงไป ต้มด้วยน้ำเดือดประมาณ 30-40 นาที ยกขึ้นมาจะใสขาววาวแวว และเวลาเก็บเครื่องเงินให้ใช้กระดาษดำห่อแล้วแยกกันไว้ห่าง ๆ เครื่องเงินจะไม่ดำ
๘. ล้างหม้อข้าวที่เหม็นคาว
เมื่ออยู่ตามไร่นา หรือหมู่บ้านห่างไกลตัวเมือง หรืออยู่บ้านแต่ไม่มีน้ำยาล้างจาน หรือไม่อยากใช้น้ำยาล้างจาน เมื่อหม้อข้าวท่านเหม็นคาวใช้กากใบชาตัดคาวได้โดยเอากากชาใส่ลงในหม้อ แล้วนำไปต้มเสร็จแล้วยกมาล้างให้สะอาดกลิ่นคาวก็หายไป
๗. เก็บพริกโดยคงความสดไว้
พริกเมื่อซื้อหรือเก็บจากต้น ควรเด็ดขั้วออกก่อนเพราะเป็นส่วนที่เน่าง่าย ล้างน้ำ้ ผึ่งให้แห้ง ห่อด้วยกระดาษถุงปูนหรือกระดาษหนา ๆ เก็บไว้ในที่แห้งพริกจะคงความสดอยู่ด้วยได้ 10-15 วันโดยไม่เน่าเสียหาย หรือถ้ามีตู้เย็นนำห่อพริกใส่ตู้เย็นจะเก็บไว้ได้ประมาณ 30 วัน
ข้อควรระวังในการเก็บพริกก็คืออย่าให้น้ำเปียกพริก
ข้อควรระวังในการเก็บพริกก็คืออย่าให้น้ำเปียกพริก
๖. รักษา เริม งูสวัด ขยุ้มตีนหมา
ให้เอาดินสอพองมาเผาไฟให้ไหม้แล้วนำไปโลกกับว่านหางจระเข้ โขลกให้เหนียวแล้วเอามาละลายกับเหล้าขาว มาทาบริเวณที่เป็น ทาประมาณสัก 3-5 วันอาการดังกล่าวจะหายไป
๕. เปลือกต้นมะกอกถอนพิษงู
มะกอก มีประโยชน์หลายด้าน เช่น รากอ่อนต้นมะกอกกินแทนข้าวได้ ผลสุกใส่ส้มตำอร่อย ยอดหรือใบอ่อนมะกอกกินกับลาบ กับแจ่ว ป่น ก็ได้ นอกจากนี้แล้วเปลือกของลำต้นก็ยังใช้แก้พิษงูได้ ถ้าสุนัขถูกงูเห่าพ่นพิษถูกตา ถ้าไม่รักษาไม่นานตาคงบอด
วิธีรักษา
ลอกเอาเปลือกต้นมะกอกมาเคี้ยวให้ละเอียด แล้วเอาโปะที่ตาทั้งสองข้าง สักครูหนึ่งอาการจะดีขึ้นตาของมันก็จะหายแดง
วิธีรักษา
ลอกเอาเปลือกต้นมะกอกมาเคี้ยวให้ละเอียด แล้วเอาโปะที่ตาทั้งสองข้าง สักครูหนึ่งอาการจะดีขึ้นตาของมันก็จะหายแดง
๔. ยาแก้กลากเกลื้อน
ยาแก้กลาก เกลื้อน นั้นมีส่วนผสมของตัวยาดังนี้
1. แอลกอฮอร์ 90% ขึ้นไป ประมาณ 100 cc.
2. ผงกันบูด(ชนิดผสมยา)ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
นำปัจจัย 2 อย่างดังกล่าวข้างต้นมาผสมกัน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
วิธีรักษา ให้ขูดเบา ๆ ที่บริเวณกลากหรือเกลื้อนเล็กน้อยแล้วทายาที่ผสมเสร็จลงไปซึ่งจะรู้สึกแสบก็ต้องทนเอา ทาเพียงครั้งเดียวก็หาย
หรืออาจใช้วิธีทางสมุนไพรก็ได้ เช่น ใช้ขิงมาแล้วเอามีดฝานให้เป็นแว่นถูทาบ่อย ๆ เกลื้อนจะหายไป
1. แอลกอฮอร์ 90% ขึ้นไป ประมาณ 100 cc.
2. ผงกันบูด(ชนิดผสมยา)ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
นำปัจจัย 2 อย่างดังกล่าวข้างต้นมาผสมกัน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
วิธีรักษา ให้ขูดเบา ๆ ที่บริเวณกลากหรือเกลื้อนเล็กน้อยแล้วทายาที่ผสมเสร็จลงไปซึ่งจะรู้สึกแสบก็ต้องทนเอา ทาเพียงครั้งเดียวก็หาย
หรืออาจใช้วิธีทางสมุนไพรก็ได้ เช่น ใช้ขิงมาแล้วเอามีดฝานให้เป็นแว่นถูทาบ่อย ๆ เกลื้อนจะหายไป
๓. ยาแก้พิษคัน
เมื่อเรารู้สึกคันด้วยเหตุจากการเกิดผดผื่นคัน ลมพิษ หมามุ้ย ยุงกัด หรือน้ำคันตามหนองน้ำสกปรกในที่ต่าง ๆ ที่เหยียบย่ำไป
วิธีรักษา ให้นำเปลือกฝรั่งและใบมาพอประมาณ ใส่ลงหม้อน้ำต้มให้เดือดแล้วใส่เกลือลงไปสักเล็กน้อย เมื่อเย็นแล้วนำมาชะล้าง หรือทาบริเวณที่คันทาบ่อย ๆ ไม่กี่ครั้งท่านก็จะหายคันทันตาเห็น
วิธีรักษา ให้นำเปลือกฝรั่งและใบมาพอประมาณ ใส่ลงหม้อน้ำต้มให้เดือดแล้วใส่เกลือลงไปสักเล็กน้อย เมื่อเย็นแล้วนำมาชะล้าง หรือทาบริเวณที่คันทาบ่อย ๆ ไม่กี่ครั้งท่านก็จะหายคันทันตาเห็น
๒. แก้พิษงูด้วยเถาตำลึง
พิษทุกชนิดโดยเฉพาะพิษงู เช่น งูเขียว งูจงอาง หรืองูเห่า ชาวบ้านที่อยู่ตามป่าเขา มักจะถูกงูพ่นพิษใส่ตาเสมอ ๆ บางครั้งสุนัขที่เลี้ยงไว้ถูกพ่นพิษใส่ ทำให้หน้าตาบวมปิด ปูด จะไปโรงพยาบาล หรือสถานีอนามัยก็ห่างไกล ซึ่งถ่าไม่ได้รับการรักษาตาจะบอดได้
วิธีรักษา ให้นำเถาตำลึงมาคั้น หรือบีบเอาน้ำสีเขียว ๆ ออกมาแล้วใช้สำลีชุบมาบีบให้หยดเข้าตา และบริเวณรอบ ๆ ทำสัก 4-6 วัน ก็จะหายเป็นปกติได้
วิธีรักษา ให้นำเถาตำลึงมาคั้น หรือบีบเอาน้ำสีเขียว ๆ ออกมาแล้วใช้สำลีชุบมาบีบให้หยดเข้าตา และบริเวณรอบ ๆ ทำสัก 4-6 วัน ก็จะหายเป็นปกติได้
๑. ยาแก้งูสวัด
โรคงูสวัด ปรากฏเป็นกันมากที่สุดในภาคอีสาน ชาวอีสานเรียกว่าเป็นวัด เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งซึ่งแพร่อยู่ทั่วไปโดยเฉพาะตามแหล่งน้ำมีลักษณะเป็นผื่นผุพองเช่นเดียวกับเป็นกราก แต่จะไม่เป็นวงกลมเหมือนกราก งูสวัดจะเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งแล้วจะขยายความยาวออกไปเรื่อย ๆ เหมือนงู ในระยะเริ่มแรกจะมีอาการแสบ ๆ คัน ๆ เมื่อเป็นมากขึ้นหรือขยายยาวขึ้นจะเจ็บปวด ถ้าเป็นรอบตัวเมื่อไหร่จะเสียชีวิต
วิธีแก้
วิธีที่ 1 ใช้ใบต้นเสลดพังพอนตัวผู้ ตำ หรือบดกับเหล้าขาว แปะไว้ ณ บริเวณที่เป็นงูสวัดให้ทั่ว เช้า และ เย็น ประมาณ 2-3 วัน หายแน่นอน
วิธีที่ 2 เอาน้ำหมากทา ชาวอีสาณจึงนิยมเป่าพ่นด้วยน้ำหมาก ซึ่งทำให้หายได้
หมายเหตุ นำเปลือกแคซึ่งมีรสฝาดทาก็หายได้เช่นกัน แสดงว่าโรคงูสวัดแก้ได้ด้วยพืชที่มรสฝาด
วิธีแก้
วิธีที่ 1 ใช้ใบต้นเสลดพังพอนตัวผู้ ตำ หรือบดกับเหล้าขาว แปะไว้ ณ บริเวณที่เป็นงูสวัดให้ทั่ว เช้า และ เย็น ประมาณ 2-3 วัน หายแน่นอน
วิธีที่ 2 เอาน้ำหมากทา ชาวอีสาณจึงนิยมเป่าพ่นด้วยน้ำหมาก ซึ่งทำให้หายได้
หมายเหตุ นำเปลือกแคซึ่งมีรสฝาดทาก็หายได้เช่นกัน แสดงว่าโรคงูสวัดแก้ได้ด้วยพืชที่มรสฝาด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)