วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

๓๗ ตรวจผ้าตกสี

บ่อยครั้งเมื่อเราไปซื้อผ้าสีสรรสดสวยเรามักจะประสบกับความหงุดหงิดงงงวยเพราะเมื่อนำมาใช้ไปสักพักกลับสีสรรพลันซีดเซียว
เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ให้ท่านตรวจสอบโดยใช้ผ้าขาวชุบน้ำแล้วบิดหมาด ๆ นำไปถูผ้าที่จะทดสอบนั้นเพียงเล็กน้อย ถ้าสีตกจะมีสีติดที่ผ้าขาวนั้น ถ้าไม่มีสีติดก็แสดงว่าเป็นผ้าที่ไม่ตกสี

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

๓๖ หอมปลาทูเค็มย่าง

วิถีการเรียนรู้ของหมู่เฮาชาวอีสานมักจะได้ยินคำกล่าวว่า " หมกปลาแดก (ปลาร้า) ต้องมีครู จี่ (ปิ้ง) ปูต้องมีวาด" ลักษณะปลาทูเค็มก็ประดุจดังปลาแดกของชาวอีสานเช่นกัน ถ้าจี่หรือปิ้งไม่ดีย่อมทำให้เละเทะได้โดยง่าย ดังนั้นเมื่อเราซื้อปลาทูเค็มมาจากตลาด ก่อนปิ้ง หรือ ย่าง ให้นำปลาทูเค็มไปแช่น้ำไว้สักครู่หนึ่งแล้วล้างออกให้สะอาด แล้วจึงนำใบตองกล้วยมาห่อจึงยกขึ้นย่างไฟพอให้ใบตองไหม้หน่อยจึงยกออก จะทำให้ปลาทูเค็มไม่เละ และมีกลิ่นหอม รสอร่อย ชวนทาน แกล้มแตงกวา ถั่ว หรือผักจิ้มอื่น ๆ ที่ชอบ อร่อยวางไม่ลง

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

๓๕ มะละกอตัวเมีย

มะละกอ หรือ หมากหุ่ง ที่ชาวอีสานแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ ตัวเมีย และ ตัวผู้ (มะละกอสาย) มีอยู่เสมอที่เราปลูกต้นมะละกอแล้ว ตั้งตารอคอยเพื่อจะเห็นผลโตเต็มต้น แต่กลับอุดมด้วยดอกบนขั่วยาว ๆ เต็มต้นแทนเพราะมันเป็นมะละกอสาย ไม่ยอมติดผล บางคนแก้ปัญหาโดยนำผ้าถุงเก่า ๆ มาพันรอบต้นหวังให้กลายเป็นตัวเมียและออกลูกดก
วิธีแก้ง่าย ๆ มีดังนี้ ก่อนนำต้นมะละกอปลูกลงดินให้ตัดรากแก้วออกเล็กน้อยแล้วปลูกตามปกติ พอถึงเวลามะละกอออกลูกจะติดลูกทุกต้น

๓๔ พริกผลดกกับรากแก้ว

เคล็ดลับหลายประการของคนโบราณในการปลูกพริกเพื่อให้ติดผลดก เช่น ใช้คนเกิดวันเสาร์ปลูก รองหลุมปลูกด้วยมูลไก่ หรือปลูกตอนเที่ยงวัน แต่มีเทนนิควิธีอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อเพาะเมล็ดพริกจนได้ต้นอ่อนและมีขนาดโตพอปลูก ก่อนจะนำต้นอ่อนปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ ให้ท่านตัดรากแก้วของต้นพริกออกเสียก่อน ประมาณ ๑ นิ้ว หรือน้อยกว่านี้เล็กน้อยก็ได้ แล้วจึงปลูกตามปกติ จะสังเกตเห็นว่าเวลาพริกออกผลจะดกมากแทบจะมองไม่เห็นใบ

๓๓.วันเขียงแตก

เขียงอาจทำได้จากไม้เกือบทุกชนิด เมื่อไม่ได้ใช้สับ หั่น เนื้อ หรือวัสดุ เป็นเวลานาน ๆ เขียงอาจแห้งซึ่งเป็นเหตุให้แตกหรือแยกได้ ปัจจุบันนิยมใช้ไม้มะขามทำเขียงเพราะเหนียวและทนทาน แต่เพื่อให้คงความเหนียวทนทานไว้ได้นาน ๆ ก่อนใช้ควรนำไปแช่น้ำเกลือก่อนสัก ๓ คืน ถ้าแช่น้ำธรรมดาเมื่อนำมาใช้ไม่นานเขียงก็มักจะแตกอีก

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

๓๒ สุนัขแสนรักโดนเบื่อ

สุนัขแสนรักของท่าน บางครั้งอาจเป็นที่หมั่นไส้ของคนอิจฉาหวังดี แต่ประสงค์ร้ายให้อาหารผสมยาเบื่อ อย่าพึ่งบื้อกิน ให้ตั้งสติเพราะนอกจากน้ำจากต้นลางจืดแล้ว ยังมีคู่ปรับของสารพิษต่าง ๆ อีก คือน้ำมะพร้าว ให้ท่านผ่าเอาน้ำมะพร้าวผสมกับน้ำตาล แล้วใช้กรอกสุนัขที่ถูกเบื่อ สุนัขจะสำรอกสิ่งที่กินออกมา จะทำให้หายจากการโดนยาเบื่อได้

๓๑ เบื่อได้แต่ไม่ตาย

มีอยู่เสมอที่ในหมู่บ้านหรือชุมชนมักเกิดเหตุการณ์ที่เกิดคนเบื่อเห็ด เบื่อปลาส้ม เบื่อปลาจ่อม หรือ อื่น ๆ
วิธีแก้ คือ ให้คั้นเอาน้ำของต้นจางจืด หรือลางจืดสักครึ่งแก้ว ดื่มเข้าไปประมาณ ๕ นาที ผู้ดื่มก็จะอาเจียนออกมาหมด

๓0 ปูนขาวใส่ก็ใสได้

รำคาญ หงุดหงิด จากน้ำในบ่อที่บ้านสีเหลืองขุ่น ใจเย็น ๆ สูตรง่าย ๆ ใส ๆ เพียงท่านใส่ปูนขาวลงไปเพียงประมาณสัก ๒ ขัน (ขันที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑0-๑๕ ซม.) เวลาประมาณ ๖ ชั่วโมง หรือจะใส่ช่วงเย็น รุ่งเช้าขึ้นมา ก็ใสวาวไม่เร้าโกรธเหมือนเดิม

๒๙ หลับสบายได้ด้วยขี้เหล็ก

บ่อยครั้งที่เรามีเรื่องต้องคิด วนเวียนซ้ำซากนอนไม่หลับ เหนื่อย เพลียละเหี่ยใจให้หงุดหงิด หลายคนอาจต้องพึ่งโรงพยาบาลจืตเวชเพราะเมื่อได้รับยาจากโรงพยาบาลมารับประทานแล้วจะรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย หลับได้จากฤทธิ์ยา แต่คนรุ่นก่อน ๆ ท่านไม่ต้องพึ่งยาเหล่านี้ แค่รับประทานแกงขี้เหล็กบ่อย ๆ ก็พลอยทำให้หลับสบาย ๆ แต่ต้องระวังยอดขี้เหล็กเพราะมีกรดยูริกปริมาณสูงจะมีผลกระทบต่อคนที่เป็นโรคเก๊าส์ได้ ผู้เป็นโรคนี้ไม่ควรรับประทานบ่อย เพราะจะทำให้ปวดข้อขึ้นมาได้

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

๒๘. แก้ไอง่าย ๆ ด้วยน้ำซาวข้าวเหนียว

น้ำซาวข้าวซึ่งชาวอีสานเรียกว่าน้ำมวก นอกจากจะใช้สระผมให้รื่นดำเป็นเงางามแล้วยังเป็นยาแก้ไอได้อีกด้วย เมื่อย่างเข้าฤดูหนาว เด็กหรือผู้ใหญ่มักชอบเป็นไอกัน ซึ่งเมื่อเป็นไอขึ้นมาจะรักษายาก ลองมาใช้ยาพื้นบ้านดูด้วยการเอาแก้วตักเอาน้ำซาวข้าวหรือน้ำมวก(ที่ตกตะกอนแล้ว) สักครึ่งแก้ว เอาเกลือป่นใส่ลงไปเล็กน้อย พอเค็มปะแร่ม ๆ จิบลงไปทีละน้อย ๆ ทำเช่นนี้สักประมาณ ๒-๓ ดื่มก่อนเข้านอน อาการไอจะหายไป

๒๗.ขมดอกแค

คนโบราณจะรู้ดีว่าส่วนใดของดอกแคที่ก่อให้เกิดรสขม ซึ่งก็คือส่วนเกสรของมันนั่นเอง ดังนั้นก่อนจะนำไปลวกหรือต้มหรือนำไปแกงจึงต้องเด็ดเสรออกไปก่อน ดอกแคก็จะไม่ขม รสชาดหอมอร่อย

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

๒๖. ฝรั่งแก้คัน

ใบฝรั่ง(บักสีดา-ภาษาอีสานบ้านเฮา) สรรพคุณนอกจากแก้เมา และ ดับกลิ่น แล้วยังแก้คันได้อีกด้วย...สุดยอด ถ้ารู้สึกคันเนื่องจากผดผื่นคัน ลมพิษ หมามุ้ย ยุงกัด หรือน้ำคันตามหนองน้ำสกปรกต่าง ๆ ด้วยการนำเปลือกฝรั่งและใบมาพอประมาณใส่น้ำต้มให้เดือดแล้วใส่เกลือกลงไปเล็กน้อย เมื่อเย็นแล้วนำมาชะล้าง หรือทาบริเวณที่คันบ่อย ๆ เพียงไม่กี่ครั้งก็จะหายจากอาการคันได้

๒๕.เกลื้อนกลากลำบากใจ

เมื่อเป็นกลากหรือเกลื้อน ถ้าลำบากใจที่จะใช้ยาแผนปัจจุบัน ก็เลือกใช้ยาแผนโบราณได้ดังนี้
๑. ใส่กระเทียมกับผักแว่นโคกตำคลุกด้วยน้ำมันหมู ทา ๒-๓ วัน รับรองว่าหาย
๒. ฝานขิงแก่เป็นแว่น ๆ ถูทาบ่อย ๆ หรือตำเอาขิงแก่ทาทุกวัน หายแน่นอน

๒๔. สุดยอดการทอดปลา

การทอดปลาที่บางครั้งผลที่ได้เป็นเนื้อเละหรือข้างนอกไหม้แต่ข้างในกลับยังดิบ ข้อควรระวังในการทอด คือ อย่าให้ไฟร้อนเกินไป เวลาจะพลิกกลับข้างต้องให้ด้านล่างสุกกรอบเสียก่อน ถ้าต้องการให้ปลาเหลืองหอมน่ารับประทานให้หั่นข่าบาง ๆ ประมาณ ๔-๕ ชิ้นใส่ในน้ำมันจนไหม้เกรียมเป็นสีเหลืองแล้วจึงทอดปลา ปลาจะมีสีเหลือง และมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน

๒๓. น้ำกัด อย่ากัดน้ำ

น้ำกัดเท้าเป็นเหตุการณ์ที่มักเกิดขึ้นเสมอ บางครั้งเป็นน้ำคัน ทำให้หงุดหงิดรำคาญเพราะคันไม่หยุดจนเป็นอุปสรรคในการทำงานจำเป็นต้องหาซื้อยามาทา บริเวณใดที่เป็นแผลจากการเกาเมื่อคัน ถ้าไม่รักษาแผลก็จะเปิดกว้างลุกลามอาจด้วยสาเหตุมาจากเชื้อรา
วิธีการรักษา ให้ใช้แอลกอฮอล์ ผสมผงกันบูด(ชนิดผสมยา) ทาฆ่าเชื้อได้ หรือใช้สารส้มบดให้ละเอียดทาบริเวณที่เป็นสัก 2-3 ครั้ง
อาการดังกล่าวจะหายไป เมื่อทราบวิธีการแล้วช่วยเล่าต่อกับชาวบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มหรือที่ราบต่ำมีน้ำขัง หรือน้ำท่วมบ่อย ๆ หรือบ้านอยู่ติดลำคลองก็จะได้อานิสงส์มหาศาล

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

๒๒. คันหายใช้น้อยหน่า

เมื่อเด็ก ๆ เป็น ฝี ตุ่ม หรือแผลเรื้อรัง ควรใช้ยาพื้นบ้านที่เรีกกันว่า สมุนไพร คือ ลูกน้อยหน่าที่แห้งดำติดคาต้น นำมาฝนกับก้อนหินแบน ๆ แล้วนำฝุ่นที่ได้ไปป้ายตรงแผลเรื้อรังนั้น แผลจะหายไปได้โดยควรทำต่อเนื่องกันไปประมาณ ๔-๕ วัน รับรองว่าได้ผลแน่ ไม่ต้องแก้โดยซื้อยาใส่ให้เปลืองตังค์

๒๑. น้ำมันเหลือเอื้อประโยชน์

น้ำมันที่ใช้ทอดอาหารแล้วจะมีสีออกคล้ำ หรือดำหม่น ให้เอามันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปมากหรือน้อยตามสัดส่วนของน้ำมัน จะทำให้น้ำ้มันสะอาดใสใหม่เหมือนเดิม จากนั้นเทเอาน้ำ้มันส่วนใส สะอาด ออกใส่ไว้ในภาชนะ นำออกมาใช้ใหม่ได้

๒0. ไขมันดันเปื้อนผ้า

เมื่อไขมันเปื้อนผ้า ไม่ว่าจะเป็นไขมันจาก ครีม เนย น้ำ้มัน ต่าง ๆ อย่าเอาผ้าไปแช่น้ำ ควรขจัดรอยเปื้อนก่อนด้วยการใช้แป้งโรยตัวโรยตรงบริเวณที่เปื้อนแล้วใช้กระดาษทิชชูวางขวางทับตรงรอยเปื้อนนั้น ใช้เตารีดร้อน ๆ วางทับกระดาษดังกล่าวสักครู่อย่าให้กระดาษไหม้ กระดาษจะดูดซับคราบมันที่ติดผ้าออกหมด จากนั้นจึงนำผ้าไปซัก

๑๙. ฟันแข็งแรงแมงไม่มี

ครกตำหมาก เป็นอุปกรณ์สำคัญของคนรุ่นปู่ย่าตายายของเราที่ชอบเคี้ยวหมาก ยามเช้า เย็น ท่านจะตำขมิ้นกับเกลือให้เข้ากันแล้วนำมาอมเป็นการดับกลิ่นปาก และยังทำให้ฟันคงทนไม่โยกโคลงง่าย ถ่าไม่มีครกขณะตื่นนอนตอนเช้าก็อาจใช้วิธีเคี้ยวเกลือหนึ่งหยิบมือแล้วเคี้ยวขมิ้นเท่าปลายนิ้วก้อย เคี้ยวปรุงกัน เอาเอาไว้ประมาณ ๕ นาที ทำเป็นประจำทุกวัน ... ฟันแข็งแรงแมงไม่มี

๑๘. ผักดองของอร่อย

หลายท่านคงนิยมชมชอบการรับประทานผักดอง (ชาวอีสานเรียก ส้มผัก) ชาวอีสานชอบดองผักกาดเขียว หอม และกระหล่ำปลี มีกรรมวิธีในการทำดังนี้
กะหล่ำ และต้นหอมไม่ต้องผึ่งแดด ส่วนผักเขียวต้องผึึ่งแดดให้เหี่ยวเล็กน้อย จากนั้นนำมาล้าง เอาเกลือโรย คั้นให้เข้ากันดีแล้วนำไปแช่ในน้ำซาวข้าว ถ้าไม่มีน้ำซาวข้าวให้เอาข้าวเหนียวหรือข้าวจ้าวที่สุกแล้วคั้นใส่พร้อมกับเกลือ ถ้าต้องการกินในเวลาสองวันก็ใส่เกลือแต่น้อย ถ้าใส่เกลือมากหลายวันจะเกิดรสเปรี้ยว

๑๗. หัวหอมกับกลิ่นเหม็น

ตามซอกมุุมบ้าน หรืออาคารท่านอาจพบกลิ่นเหม็นของหนู จิ้งจก หรือตุ๊กแกที่ตายแล้วหาซากไม่พบ ปัญหาเช่นนี้ขจัดได้ง่าย ๆ ด้วยการ นำหัวหอมมาผ่าครึ่งแล้วเอาไปวางไว้ในย่าน หรือ จุดที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน (ปริมาณหัวหอมให้มากพอประมาณ) กลิ่นเหม็นสาบเหล่านนั้นก็จะหายไป

๑๖. สูตรลวกผักสวย

การลวกผักให้สุก มีสีเขียวจัดและน่ารับประทาน ต้องต้มน้ำให้เดือดก่อน จากนั้นใส่ผักลงแล้วปิดฝาหม้อให้ดี ประมาณ ๑-๒ นาที ยกหม้อลง แล้วรีบเอาผักออก ยึกหลักสี่อย่าง คือ "น้ำน้อย ไฟแรง ปิดฝา เวลาสั้น" ผักที่ลวกโดยกรรมวิธีนี้จะน่ารับประทานเพราะมีสีเขียวสดใสเหมือนก่อนลวก

๑๕. น้ำซาวข้าวกับคาวปาก

ในครั้งก่อน สมัยปู่ ย่า ตา ยายของเรา จะใช้น้ำซาวข้าวผสมกับเกลือช่วยในการขจักกลิ่นปาก ซึ่งวิธีการนี้ก็ไม่น่าจะตกยุคแต่อย่างไร ทุกท่านสามารถนำมาใช้ได้ช่วยให้ประหยัดสตางค์ที่ต้องซื้อยาสีฟันได้ สูตรหรือวิธีการนี้ผู้ที่รับประทานข้าวเหนียวจะทำได้โดยสะดวกเพราะมีน้ำซาวข้าว(แช่ หรือ หม่า ข้าว)อยู่แล้ว ใส่เกลือป่นผสมลงไปในน้ำซาวข้าว อมไว้ประมาณ ๒ นาที แล้วค่อยบ้วนปากทิ้งไป อมเป็นประจำทุกวันกลิ่นปากจะหมดไป แต่ท่านคงต้องแปลงฟันเช่นเดิมมิฉะนั้นเศษอาหารอาจยังคงติดค้างในร่องฟันอยู่ซึ่งจะก่อกลิ่นขึ้นมาใหม่ได้


บันทึก: คลื่นเสียงของชาวแอตแลนติสที่ใช้ในการฝึกพลัง เสียง "SO-MAA-AH (โซเมอา)" ถ้าออกเสียงต่อเนื่อง เสียงนี้จะเหมาะเป็น มนตรา ที่สุดสำหรับปัจเจกชนที่มุ่งจะสัมผัสกับ พระเจ้าภายในตัวเอง(GOD-SELF) ของคนเรา เพราะเสียงนี้เป็นตัวแทนของความรู้ การรับรู้และการบรรลุ อีกทั้งยังเป็นเสียงแห่งจักรวาลอีกด้วย
...อ้างอิง สมาธิหมุน ....สุวินัย ภรณวลัย

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

๑๔. น้ำส้มคั้น มะนาวคั้นพลันอร่อย

การคั้นน้ำส้ม และมะนาว ต้องรู้วิธี หากทำไม่ถูกวิธี น้ำส้ม และน้ำมะนาวก็จะมีรสขม ไม่อร่อย สาเหตุเนื่องจากน้ำมันที่ผิวของผลไม่ทั้งสองชนิดลงไปด้วย จึงมข้อแนะนำดังนี้
น้ำมะนาว นำมานาวทั้งผลลวกน้ำร้อนก่อนเพื่อชะล้างน้ำมันที่ผิวออก จากนั้นจึงผ่าซีกคั้นใส่ลงในภาชนะ เติมน้ำตาลทราย หรือน้ำเชื่อมผสมน้ำต้มสุก หรือน้ำอุ่น เหยาะเกลือป่นลงไปเล็กน้อยเป็นเสร็จวิธี ดื่มได้ ถ้าชอบเย็น ๆ ก็ใส่น้ำเเข็งลงไป ก็จะดื่มได้รสชาดชื่นใจ
น้ำส้ม ถ้าที่คั้นเป็นแบบเหลี่ยมผ่าซีีกแล้วกดหมุนได้เลย แต่ถ้าเป็นแบบเครื่องกดต้องปอกเปลือกส้มออกให้หมด ผ่าซีก แล้วจึงกด หากไม่เอเปลือกออก น้ำมันที่เปลือกจะหยดลงด้วยทำให้มีรสขมไม่อร่อย เมื่อได้น้ำส้มมาแล้วก็ปรุงรสเอาตามใจชอบ

๑๓. ปลูกสร้างบ้าน ณ ที่ใด

การที่จะสร้างบ้านนั้นมิใช่ว่ามีที่ดินแล้วจะปลูกได้เลย ยังต้องหาฤกษ์หายาม หาที่ที่เหมาะ ๆ อยู่แล้วจะสบายใจ

1. ไม่คร่อมตอไม้ อาจเป็นไปได้ว่า คนโบราณกลัวว่าตอจะงอกขึ้นมาภายหลังจะเป็นการลำบาก แม้แต่รากไม้ใหญ่ผ่านก็ต้องขุดออก ยกเว้นไม้ที่มีดอกผลที่เรากินได้

2. ไม่คร่อมจอมปลวก ปลวกเป็นพิษภยต่อบ้านอย่างยิ่ง อีกทั้งภายในจอมปลวกเองยังกลวง หากเจอน้ำอาจยุบตัวลงได้

3. ไม่เป็นบ่อ สระน้ำ หรือหนองน้ำเก่า โบราณห้ามไว้ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีแก้ หากท่านจะสร้างบ้านในบริเวณนั้นท่านต้องถมดินทิ้งไว้หนุ่งฝน จากนั้นสร้างบ้านได้

๑๒. หาตาน้ำยามขุดบ่อ

เวลาจะขุดบ่ิอน้ำจะขุดแบบสุ่มเสี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อขุดลงไปแล้วไม่พบน้ำก็จะทำให้เสียเวลาไปเปล่า ๆ วิธีการคือ ในตอนเช้าช่วงประมาณตีห้า ถึงหกโมงเช้า ให้ไปยืนดูตามพื้นที่ต่าง ๆ ณ ตำแหน่งใดพื้นดินอุ่น ๆ เป็นตาน้ำขุดบ่อได้ อีกวิธีหนึ่งให้สังเกตปลวก หรือจอมปลวก จะมีน้ำอยู่ใต้พื้นดินไม่เกิน 3 เมตร ขุดบ่อได้

๑๑. น้ำซาวข้าว เกลือ แก้กลิ่นปาก

สมัยโบราณรุ่นปู่ย่า ตายาย และยังใช้ได้ในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยทำให้ประหยัดเงินซื้อยาสีฟันได้มาก สูตรนี้ผู้ที่รับประทานข้าวเหนียวก็หาได้ง่ายเพราะมีน้ำซาวข้าวที่ท่านหม่า(แช่)ข้าวเหนียวไว้นั่นแหละ นำมาผสมเกลือป่นอมสัก 2-3 นาที แล้วบ้วนทิ้ง อมเป็นประจำทุกวันแทนยาสีฟันได้เลย กลิ่นปากก็จะไม่มีเป็นที่สังคมรังเกียจเป็นแน่

๑0. คั้นน้ำมะนาวไม่ให้ขม

น้ำมะนาวขมเพราะน้ำมันที่ผิวของมะนาว วิธีทำไม่ให้ขม ควรนำมะนาวทั้งผลลวกน้ำร้อนเสียก่อน เพื่อชะล้างน้ำมันที่ผิวของมะนาว แล้วจึงผ่าซีกคั้นใส่ลงในน้ำตาลทรายละลายน้ำร้อน หรือน้ำเชื่อมผสมน้ำ เหยาะเกลือป่นลงไปเล็กน้อย ใส่น้ำแข็งดื่มจะได้รสชาดชื่นใจ และประหยัดเงินด้วย

๙. ขัดเครื่องเงิน

วิธีขัดเครื่องเงินให้เอามันฝรั่งมาต้มจนเละ แล้วใส่เครื่องเงินลงไป ต้มด้วยน้ำเดือดประมาณ 30-40 นาที ยกขึ้นมาจะใสขาววาวแวว และเวลาเก็บเครื่องเงินให้ใช้กระดาษดำห่อแล้วแยกกันไว้ห่าง ๆ เครื่องเงินจะไม่ดำ

๘. ล้างหม้อข้าวที่เหม็นคาว

เมื่ออยู่ตามไร่นา หรือหมู่บ้านห่างไกลตัวเมือง หรืออยู่บ้านแต่ไม่มีน้ำยาล้างจาน หรือไม่อยากใช้น้ำยาล้างจาน เมื่อหม้อข้าวท่านเหม็นคาวใช้กากใบชาตัดคาวได้โดยเอากากชาใส่ลงในหม้อ แล้วนำไปต้มเสร็จแล้วยกมาล้างให้สะอาดกลิ่นคาวก็หายไป

๗. เก็บพริกโดยคงความสดไว้

พริกเมื่อซื้อหรือเก็บจากต้น ควรเด็ดขั้วออกก่อนเพราะเป็นส่วนที่เน่าง่าย ล้างน้ำ้ ผึ่งให้แห้ง ห่อด้วยกระดาษถุงปูนหรือกระดาษหนา ๆ เก็บไว้ในที่แห้งพริกจะคงความสดอยู่ด้วยได้ 10-15 วันโดยไม่เน่าเสียหาย หรือถ้ามีตู้เย็นนำห่อพริกใส่ตู้เย็นจะเก็บไว้ได้ประมาณ 30 วัน
ข้อควรระวังในการเก็บพริกก็คืออย่าให้น้ำเปียกพริก

๖. รักษา เริม งูสวัด ขยุ้มตีนหมา

ให้เอาดินสอพองมาเผาไฟให้ไหม้แล้วนำไปโลกกับว่านหางจระเข้ โขลกให้เหนียวแล้วเอามาละลายกับเหล้าขาว มาทาบริเวณที่เป็น ทาประมาณสัก 3-5 วันอาการดังกล่าวจะหายไป

๕. เปลือกต้นมะกอกถอนพิษงู

มะกอก มีประโยชน์หลายด้าน เช่น รากอ่อนต้นมะกอกกินแทนข้าวได้ ผลสุกใส่ส้มตำอร่อย ยอดหรือใบอ่อนมะกอกกินกับลาบ กับแจ่ว ป่น ก็ได้ นอกจากนี้แล้วเปลือกของลำต้นก็ยังใช้แก้พิษงูได้ ถ้าสุนัขถูกงูเห่าพ่นพิษถูกตา ถ้าไม่รักษาไม่นานตาคงบอด

วิธีรักษา
ลอกเอาเปลือกต้นมะกอกมาเคี้ยวให้ละเอียด แล้วเอาโปะที่ตาทั้งสองข้าง สักครูหนึ่งอาการจะดีขึ้นตาของมันก็จะหายแดง

๔. ยาแก้กลากเกลื้อน

ยาแก้กลาก เกลื้อน นั้นมีส่วนผสมของตัวยาดังนี้
1. แอลกอฮอร์ 90% ขึ้นไป ประมาณ 100 cc.
2. ผงกันบูด(ชนิดผสมยา)ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
นำปัจจัย 2 อย่างดังกล่าวข้างต้นมาผสมกัน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

วิธีรักษา ให้ขูดเบา ๆ ที่บริเวณกลากหรือเกลื้อนเล็กน้อยแล้วทายาที่ผสมเสร็จลงไปซึ่งจะรู้สึกแสบก็ต้องทนเอา ทาเพียงครั้งเดียวก็หาย

หรืออาจใช้วิธีทางสมุนไพรก็ได้ เช่น ใช้ขิงมาแล้วเอามีดฝานให้เป็นแว่นถูทาบ่อย ๆ เกลื้อนจะหายไป

๓. ยาแก้พิษคัน

เมื่อเรารู้สึกคันด้วยเหตุจากการเกิดผดผื่นคัน ลมพิษ หมามุ้ย ยุงกัด หรือน้ำคันตามหนองน้ำสกปรกในที่ต่าง ๆ ที่เหยียบย่ำไป
วิธีรักษา ให้นำเปลือกฝรั่งและใบมาพอประมาณ ใส่ลงหม้อน้ำต้มให้เดือดแล้วใส่เกลือลงไปสักเล็กน้อย เมื่อเย็นแล้วนำมาชะล้าง หรือทาบริเวณที่คันทาบ่อย ๆ ไม่กี่ครั้งท่านก็จะหายคันทันตาเห็น

๒. แก้พิษงูด้วยเถาตำลึง

พิษทุกชนิดโดยเฉพาะพิษงู เช่น งูเขียว งูจงอาง หรืองูเห่า ชาวบ้านที่อยู่ตามป่าเขา มักจะถูกงูพ่นพิษใส่ตาเสมอ ๆ บางครั้งสุนัขที่เลี้ยงไว้ถูกพ่นพิษใส่ ทำให้หน้าตาบวมปิด ปูด จะไปโรงพยาบาล หรือสถานีอนามัยก็ห่างไกล ซึ่งถ่าไม่ได้รับการรักษาตาจะบอดได้
วิธีรักษา ให้นำเถาตำลึงมาคั้น หรือบีบเอาน้ำสีเขียว ๆ ออกมาแล้วใช้สำลีชุบมาบีบให้หยดเข้าตา และบริเวณรอบ ๆ ทำสัก 4-6 วัน ก็จะหายเป็นปกติได้

๑. ยาแก้งูสวัด

โรคงูสวัด ปรากฏเป็นกันมากที่สุดในภาคอีสาน ชาวอีสานเรียกว่าเป็นวัด เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งซึ่งแพร่อยู่ทั่วไปโดยเฉพาะตามแหล่งน้ำมีลักษณะเป็นผื่นผุพองเช่นเดียวกับเป็นกราก แต่จะไม่เป็นวงกลมเหมือนกราก งูสวัดจะเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งแล้วจะขยายความยาวออกไปเรื่อย ๆ เหมือนงู ในระยะเริ่มแรกจะมีอาการแสบ ๆ คัน ๆ เมื่อเป็นมากขึ้นหรือขยายยาวขึ้นจะเจ็บปวด ถ้าเป็นรอบตัวเมื่อไหร่จะเสียชีวิต
วิธีแก้
วิธีที่ 1 ใช้ใบต้นเสลดพังพอนตัวผู้ ตำ หรือบดกับเหล้าขาว แปะไว้ ณ บริเวณที่เป็นงูสวัดให้ทั่ว เช้า และ เย็น ประมาณ 2-3 วัน หายแน่นอน
วิธีที่ 2 เอาน้ำหมากทา ชาวอีสาณจึงนิยมเป่าพ่นด้วยน้ำหมาก ซึ่งทำให้หายได้
หมายเหตุ นำเปลือกแคซึ่งมีรสฝาดทาก็หายได้เช่นกัน แสดงว่าโรคงูสวัดแก้ได้ด้วยพืชที่มรสฝาด